“บรรจุภัณฑ์ไบโอพลาสติก” เทรนด์แพคเกจจิ้งที่น่าจับตาในปี 2025

บรรจุภัณฑ์ไบโอพลาสติก รูปแบบ Packaging ที่กำลังจะกลายมาเป็นเทรนด์บรรจุภัณฑ์ที่น่าจับตามองในปี 2025 ที่จะถึงนี้ ด้วยคุณสมบัติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสามารถตอบโจทย์กระแสความยั่งยืนที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญ บรรจุภัณฑ์ประเภทนี้ไม่ได้เป็นเพียงตัวเลือกใหม่ แต่กลายเป็นตัวเลือกที่จำเป็นสำหรับแบรนด์ที่ต้องการสร้างความแตกต่างในตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ในบทความนี้ Plastic Park จะพาทุกคนมาทำความเข้าใจเหตุผลที่ว่าทำไมไบโอพลาสติกถึงเป็นทางเลือกที่เจ้าของแบรนด์ไม่ควรมองข้าม และวิธีที่มันสามารถช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์และเพิ่มคุณค่าให้ธุรกิจของทุกคนในยุคที่ผู้บริโภคใส่ใจโลกมากขึ้นไปพร้อม ๆ กันค่ะ

"บรรจุภัณฑ์ไบโอพลาสติก" เทรนด์แพคเกจจิ้งที่น่าจับตาในปี 2025

บรรจุภัณฑ์ไบโอพลาสติก แพคเกจจิ้งที่น่าสนใจและเจ้าของแบรนด์ไม่ควรมองข้ามหากอยากได้ใจลูกค้า Gen ใหม่

“ในยุคที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมากขึ้น บรรจุภัณฑ์ไม่ได้เป็นเพียงแค่ส่วนที่ห่อหุ้มสินค้า แต่ยังสะท้อนถึงตัวตนและความรับผิดชอบของแบรนด์ในสายตาของผู้บริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่ม Gen ใหม่ที่มักมองหาแบรนด์ที่มีจุดยืนชัดเจนต่อประเด็นสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน การเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่ตอบโจทย์เทรนด์นี้จึงไม่เพียงช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แบรนด์เท่านั้น แต่ยังเป็นก้าวสำคัญที่จะเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้าได้อย่างแนบแน่นอีกด้วยเช่นกัน ซึ่งหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจและมาแรงในปัจจุบันก็คือ “บรรจุภัณฑ์ไบโอพลาสติก” ตัวช่วยที่จะเปลี่ยนมุมมองของลูกค้าและสร้างความแตกต่างให้แบรนด์ของทุกคนอย่างยั่งยืนค่ะ

Biodegradable Packaging คืออะไร จุดโดดเด่นของบรรจุภัณฑ์ชนิดนี้คืออะไรกันแน่?

Biodegradable Packaging หรือ บรรจุภัณฑ์ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ คือบรรจุภัณฑ์ที่สามารถย่อยสลายกลับสู่ธรรมชาติได้ โดยไม่ทิ้งสารพิษที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเกิดจากกระบวนการทางธรรมชาติที่จุลินทรีย์ เช่น แบคทีเรีย เชื้อรา หรือจุลินทรีย์ชนิดอื่นๆ ทำให้วัสดุนั้นๆ แตกตัวและย่อยสลายไปตามธรรมชาติ ในเวลาที่เหมาะสม

ซึ่งบรรจุภัณฑ์ประเภทนี้มักจะผลิตจากวัสดุที่ได้จากธรรมชาติหรือวัสดุที่มีพื้นฐานมาจากพืช เช่น แป้งข้าวโพด มันสำปะหลัง หรือ ขี้เลื่อย โดยการพัฒนานี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อลดผลกระทบจากการใช้พลาสติกประเภทที่ไม่สามารถย่อยสลายได้ในธรรมชาติ (Non-biodegradable) ซึ่งก่อให้เกิดมลพิษต่อดิน น้ำ และอากาศในระยะยาวค่ะ

บรรจุภัณฑ์ย่อยสลายได้ทางชีวภาพเป็นทางเลือกที่ช่วยลดมลพิษในสิ่งแวดล้อมและช่วยส่งเสริมความยั่งยืน โดยการเลือกใช้วัสดุที่สามารถย่อยสลายและไม่ทิ้งสารพิษในธรรมชาติ เป็นการลดการสะสมของขยะที่ย่อยสลายได้ยากในโลกอีกด้วย

เปิด 5 เหตุผล! ทำไม บรรจุภัณฑ์ Biodegradable จึงเป็นเทรนด์ที่น่าจับตามองในปี 2025

จากที่บอกไปค่ะว่า บรรจุภัณฑ์ Biodegradable  นั้นได้กลายเป็นประเด็นที่น่าจับตามองในปี 2025 ซึ่งเกิดจากปัจจัยสำคัญดังต่อไปนี้…

1.การตื่นตัวด้านสิ่งแวดล้อม

เพราะในปัจจุบันผู้บริโภคทั่วโลกให้ความสนใจในการลดขยะพลาสติกและการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืนมากขึ้น ส่งผลให้เกิดกระแสการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจเรื่องนี้เป็นพิเศษ

2.กฎหมายและข้อบังคับที่เข้มงวดขึ้น

หลายประเทศได้ออกกฎหมายควบคุมการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว (Single-use Plastics) และส่งเสริมการใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้แบรนด์และอุตสาหกรรมต่าง ๆ ต้องปรับตัวเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายเหล่านี้

3.ความได้เปรียบทางการตลาด

บรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้เป็นจุดขายที่ช่วยสร้างภาพลักษณ์ให้แบรนด์ดูมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคในยุคนี้ที่มองหาแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับคุณค่ามากกว่าราคา

4.นวัตกรรมและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี

เทคโนโลยีการผลิตบรรจุภัณฑ์ Biodegradable มีการพัฒนาจนต้นทุนลดลงและใช้งานได้หลากหลายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นบรรจุภัณฑ์อาหาร เครื่องสำอาง หรือสินค้าทั่วไป ทำให้ผู้ประกอบการมีตัวเลือกที่น่าสนใจมากขึ้น

5.ความต้องการในเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)

การใช้บรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้ช่วยสนับสนุนระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของหลายอุตสาหกรรมในการลดของเสียและใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ ในปี 2025 ที่กระแสการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมยังคงทวีความสำคัญ การเลือกใช้ Biodegradable Packaging จึงเป็นทั้งโอกาสและความจำเป็นสำหรับแบรนด์ที่ต้องการรักษาความน่าเชื่อถือในสายตาผู้บริโภคและตอบรับความท้าทายของยุคสมัยได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ

Biodegradable Plastic มีอะไรบ้าง?

พลาสติกชีวภาพ (Biodegradable Plastic) คือ พลาสติกที่สามารถย่อยสลายได้ทางชีวภาพโดยการช่วยของจุลินทรีย์และการสลายตัวในธรรมชาติ ไม่ทิ้งสารพิษหรือมลพิษที่เป็นอันตราย พลาสติกประเภทนี้มักผลิตจากวัสดุธรรมชาติ เช่น แป้งข้าวโพด หรือ มันสำปะหลัง ซึ่งแตกต่างจากพลาสติกทั่วไปที่ผลิตจากปิโตรเคมีและใช้เวลานานในการย่อยสลาย

ตัวอย่างของพลาสติกชีวภาพที่พบได้ในท้องตลาด ได้แก่:

  1. PLA (Polylactic Acid): ผลิตจากแป้งข้าวโพดหรือมันสำปะหลัง ใช้ในบรรจุภัณฑ์อาหาร หรือหลอดดื่มพลาสติก
  2. PBAT (Polybutylene Adipate Terephthalate): พลาสติกยืดหยุ่นที่สามารถย่อยสลายได้ดี นิยมใช้ในผลิตภัณฑ์ที่ต้องการความยืดหยุ่น เช่น ถุงพลาสติก
  3. PHA (Polyhydroxyalkanoates): ผลิตจากจุลินทรีย์ที่สังเคราะห์พลาสติกจากสารอาหารธรรมชาติ เช่น น้ำตาล ใช้ในผลิตภัณฑ์ที่ต้องการความแข็งแรง เช่น ฟิล์มห่ออาหาร
  4. พลาสติกจากมันสำปะหลัง: พลาสติกที่ผลิตจากมันสำปะหลังให้คุณสมบัติในการย่อยสลายได้ และสามารถใช้ในบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ที่ใช้ครั้งเดียว

ทั้งนี้ พลาสติกชีวภาพเป็นทางเลือกที่ยั่งยืนในการแทนที่พลาสติกจากปิโตรเคมี ซึ่งสามารถย่อยสลายได้ในธรรมชาติภายในระยะเวลาอันสั้น โดยยังคงคุณสมบัติที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย เช่น บรรจุภัณฑ์อาหาร หรือสินค้าในชีวิตประจำวัน

Biodegradable Packaging มีอะไรบ้าง?

บรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้มีหลากหลายประเภท ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งในอุตสาหกรรมอาหารและสินค้าทั่วไป บางประเภทสามารถนำไปใช้แทนพลาสติกในชีวิตประจำวัน เช่น

  1. ถุงชานอ้อย: ผลิตจากเส้นใยเหลือใช้จากการสกัดน้ำอ้อย ซึ่งเป็นวัสดุธรรมชาติที่สามารถย่อยสลายได้ง่ายในธรรมชาติ โดยที่ไม่เกิดมลพิษ เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับธุรกิจที่ต้องการบรรจุภัณฑ์แบบยั่งยืน
  2. กล่องกระดาษคราฟต์: กระดาษคราฟต์ทำจากไม้ที่ผ่านกระบวนการรีไซเคิล โดยไม่ใช้สารเคมีในการฟอกสี จึงเหมาะกับการใช้บรรจุอาหารและสินค้า
  3. แก้วพลาสติกชีวภาพ (PLA): PLA (Polylactic Acid) เป็นพลาสติกที่ทำจากแป้งข้าวโพดหรือมันสำปะหลัง ซึ่งสามารถย่อยสลายได้และปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมเมื่อทิ้งลงในดินหรือแหล่งน้ำ
  4. หลอดหรือถุงจากแป้งมันสำปะหลัง: ถุงหรือหลอดที่ผลิตจากแป้งมันสำปะหลัง มีความทนทานต่อการใช้งานแต่ยังสามารถย่อยสลายได้ในธรรมชาติเมื่อหมดอายุการใช้งาน

อย่างไรก็ตาม บรรจุภัณฑ์ย่อยสลายได้มักจะเลือกใช้วัสดุจากธรรมชาติ เช่น ข้าวโพด มันสำปะหลัง หรือชานอ้อย เพื่อให้สามารถย่อยสลายได้ง่ายและปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยลดการใช้พลาสติกที่ย่อยสลายยากและช่วยส่งเสริมการรักษาสิ่งแวดล้อม

กล่าวโดยสรุป จากข้อมูลต่าง ๆ ที่กล่าวมา ทุกคนจะสามารถเห็นได้แล้วว่า ความต้องการของผู้บริโภคนั้นเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอค่ะ ดังนั้น การเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ไบโอพลาสติกไม่เพียงตอบโจทย์ด้านความสวยงามและความทันสมัยเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ลูกค้า Gen ใหม่ให้ความสำคัญ การเปลี่ยนมาใช้บรรจุภัณฑ์ประเภทนี้จึงเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แบรนด์ ทั้งในด้านการสื่อสารภาพลักษณ์ที่ใส่ใจโลกและการสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนกับกลุ่มลูกค้าที่มองหาแบรนด์ที่มีจุดยืนในเรื่องความยั่งยืนอย่างชัดเจน อย่ารอช้าที่จะลงทุนในบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมวันนี้ เพราะอาจเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้แบรนด์ของทุกคนก้าวล้ำในตลาดและครองใจผู้บริโภคในอนาคตค่ะ

Plastic Park ขายส่งบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง ขวดปั๊ม กระปุกครีม หลอดครีม พร้อมพิมพ์ไม่จำกัดสี

พลาสติกพาร์ค เราเป็นตัวแทนจำหน่ายและนำเข้าบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง และเวชภัณฑ์ทุกชนิด เช่น กระปุกครีม หลอดครีม ขวดครีม หัวปั้ม หัวสเปรย์ เรามีรูปแบบของบรรจุภัณฑ์หลากหลายกว่า 1,500 รายการ จำหน่ายทั้งปลีกและส่ง ด้วยราคาจากโรงงานโดยตรง ทั้งนี้ เรามีรูปแบบของสินค้าให้เลือกมากมายกว่า 1,000 รายการ ไม่ว่าจะเป็น บรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง /ขวดพลาสติก/ขวดเครื่องสำอาง / กระปุกครีม / ขวดเซรั่ม /กระปุกสครับ /ตลับครีม / ขวดอโรม่า ฯลฯ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่จะนำไปต่อยอดสินค้าของแต่ละท่าน เพื่อสร้างความน่าสนใจ และเพิ่มมูลค่าของสินค้าที่อยู่ด้านในได้อย่างลงตัว เราเชื่อว่า หากลูกค้าได้ข้อมูลที่เพียงพอ จะนำมาซึ่งการตัดสินใจที่ถูกต้อง ในการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ให้เหมาะกับสินค้า และเหมาะกับกลุ่มเป้าหมายของสินค้าได้

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

เกณฑ์การเลือกบริษัทบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางค์ที่เชื่อถือได้

3 สิ่งควรรู้ก่อนสั่งทำบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง

เลือกใช้กระปุกบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางแบบไหนดีนะ ?