“กระดาษคราฟท์” ชนิดกระดาษยอดนิยมของกล่องใส่แพคเกจ

กระดาษคราฟท์ เชื่อว่าเจ้าของแบรนด์หลาย ๆ คนต้องเคยได้ยินชื่อของกระดาษชนิดนี้มาก่อนอย่างแน่นอน แต่อาจจะไม่ได้รู้ลึกว่าคุณสมบัติของกระดาษชนิดนี้มีอะไรบ้าง แล้วทำไมมันจึงได้รับความนิยมจากหลาย ๆ แบรนด์ที่มักจะใช้กระดาษแบบคราฟท์มาทำเป็นกล่องใส่ผลิตภัณฑ์ เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่ากระดาษที่นำมาใช้เพื่อผลิตเป็นกล่องบรรจุภัณฑ์นั้นมีหลายชนิด แต่ทำไมแบบคราฟท์จึงดูโดเด่นกว่าเพื่อน? โดยในบทความนี้ Plastic Park ได้รวบรวมคำตอบของคำถามดังกล่าวมาฝากแล้วค่ะ

“กระดาษคราฟท์” คืออะไร ทำไมจึงได้รับความนิยม?

โดยทั่วไป 90-95% ของแพ็คเกจจิ้งที่ห่อหุ้มเครื่องสำอางนั้นผลิตมาจากกระดาษ และความสนุกของการได้ซื้อเครื่องสำอางชิ้นใหม่มา อยู่ที่ลูกเล่นของกล่องใส่เครื่องสำอางที่มีความแตกต่างกันออกไปในแต่ละแบรนด์ด้วยนั่นเอง ยังไงก็ตามหนึ่งในปัจจัยที่ต้องมีอยู่ในการธุรกิจ ก็คือ กล่องบรรจุภัณฑ์ที่จะเป็นตัวช่วยให้สินค้าผลิตภัณฑ์ดูดีมีราคาเพิ่มมากขึ้น ฉะนั้นแล้วกล่องบรรจุภัณฑ์จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะส่งผลให้ภาพลักษณ์ของสินค้าดีขึ้น ดังนั้น เจ้าของแบรนด์จึงอาจจะต้องมีดีไซน์ของกล่องไว้ในใจเพื่อให้ง่ายต่อการเลือกมากขึ้น

และนอกจากเรื่องดีไซน์แล้ว อีกสิ่งที่สำคัญที่ขาดไม่ได้เลยคือการเลือกชนิดของกระดาษให้ได้มาตรฐานและเหมาะกับแบรนด์มากที่สุด เพราะจากที่ได้บอกไปตั้งแต่ต้นค่ะว่ากระดาษที่นำมาใช้ผลิตเป็นกล่องใส่บรรจุภัณฑ์นั้นมีหลายชนิด ดังนั้น สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ก็คือเจ้าของแบรนด์จะต้องทราบถึงคุณสมบัติของกระดาษชนิดต่าง ๆ ด้วยเพื่อที่จะได้ตัดสินใจเลือกได้อย่างถูกต้องนั่นเอง

กระดาษชนิดต่างๆ สำหรับการทำกล่องใส่บรรจุภัณฑ์

จากที่บอกไปว่าชนิดของกล่องกระดาษใส่แพคเกจจิ้งนั้นมีหลายชนิด ซึ่งหลัก ๆ จะมีอยู่ 4 ชนิดด้วยกัน ดังนี้

1.กระดาษธรรมดา 

มีความหนา 80 – 120 แกรม ไม่มีการเคลือบสารเคมีพิเศษสำหรับผลงานการพิมพ์ภาพสีกราฟิกที่มีคุณภาพแต่อย่างใด ดังนั้นเวลาใช้กระดาษในการพิมพ์ จะทำได้ดีที่สุดที่ความละเอียด 300 dpi เท่านั้น 

2.กระดาษปอนด์  

มีความหนามากกว่า 160 แกรม ก็เป็นทางเลือกที่ดีในการนำมาพิมพ์ด้วยอิงค์เจ็ต เพราะจะป้องกันการซึมของหมึก 

3.กระดาษอาร์ตการ์ด

เป็นกระดาษที่มีการเคลือบผิวหน้าด้วยวัสดุบางอย่างให้มีผิวเรียบมัน ลักษณะจะมีผิวมันไม่มากนักทั้ง 2 ด้าน แต่มีความหนามากกว่ากระดาษอาร์ต สามารถพิมพ์ งานได้ทั้ง 2 ด้าน ใช้พิมพ์ภาพที่มีรายละเอียดสูง ทำให้ภาพคมชัดและออกมาสวยงาม

4.กระดาษคราฟท์ 

ลักษณะของกระดาษคราฟท์ส่วนใหญ่จะมีเนื้อหยาบ สีน้ำตาลตามสีของเนื้อไม้ที่นำมาทำเยื่อแล้วผลิตกระดาษแต่บางชนิดก็มีสีขาว เพราะใช้เยื่อฟอกขาวหรืออาจมีสีอื่นๆ ขึ้นอยู่กับผู้ผลิตและความต้องการของตลาด

กล่องกระดาษคราฟท์ คืออะไร และกระดาษชนิดนี้มีกี่แบบ มาทำความรู้จักกัน!

กล่องกระดาษคราฟท์ คือ บรรจุภัณฑ์ชนิดหนึ่งที่ถูกผลิตขึ้นมาทดแทนการใช้งานบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ ซึ่งตัวกล่องกระดาษคราฟท์จะถูกผลิตขึ้นมาจากกระดาษรีไซเคิล หรือเนื้อไม้ชนิดต่างๆตามความต้องการของผู้ใช้งาน ด้วยความสามารถที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสามารถนำมารีไซเคิลใช้งานใหม่ได้ แถมยังมีราคาที่ไม่สูงเกินไปนัก และยังมีคุณสมับติต่าง ๆ ที่บรรจุภัณฑ์อื่น ๆไม่มีอีกด้วย

คุณลักษณะของกระดาษคราฟท์แตกต่างจากกระดาษชนิดอื่น ๆ อย่างไร?

กระดาษคราฟท์เป็นกระดาษที่มีความเหนียวและแข็งแรงกว่ากระดาษธรรมดา สามารถป้องกันแรงอัดและการทิ่มทะลุ เนื่องจากการกระทบกระแทกจากภายนอกได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในการต้านทานการเปียกน้ำ ต้านทานการเปรอะน้ำมัน ต้านทานการ เสียดสี มีน้ำหนักกระดาษมีความหนา และมีความเรียบสม่ำเสมอ สามารถติดกาวได้ดีและเหมาะสำหรับการพิมพ์

5 ชนิดของกระดาษคราฟท์

1. KS : กระดาษคราฟท์สีขาวสำหรับทำผิวกล่อง มีความเรียบ สะอาด เหมาะสำหรับกล่องที่เน้นความสวยงาม และ ช่วยให้การพิมพ์ที่มีสีสันชัดเจน  ดูโดดเด่น เพิ่มคุณค่าให้สินค้าที่บรรจุภายใน นอกจากนี้ กระดาษ KS ยังมีความแข็งแรงสูง สามารถปกป้องสินค้าได้ดี นิยมใช้สำหรับ กล่องเครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าเพื่อการส่งออก และกล่องอุปโภคบริโภค ที่ต้องการบ่งบอกถึงความมีระดับของสินค้า เป็นต้น
2. KA : กระดาษคราฟท์สีเหลืองทองสำหรับทำผิวกล่อง มีความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ สามารถรองรับน้ำหนักได้ดีเยี่ยม และเป็นสีที่นิยมใช้กันมากในประเทศ เหมาะสำหรับ สินค้าอะไหล่ยนต์ อาหารกระป๋อง กล่องเฟอร์นิเจอร์ ที่ต้องการความมั่นใจในเรื่องความแข็งแรงทุกรูปแบบ ทั้งการเรียงซ้อน และ การป้องกันการกระแทก
3. KI : กระดาษคราฟท์สีน้ำตาลอ่อนสำหรับทำผิวกล่อง สีอ่อนสบายตา เหมาะกับงานพิมพ์ภาพหรือตัวหนังสือ ให้มีสีสวยงามด้านการพิมพ์เป็นรองเพียงกระดาษ KS เท่านั้น นิยมใช้กับสินค้าที่ไม่ต้องการความแข็งแรงมากเท่า KA  เหมาะกับกล่องสินค้าทั่วไป เช่น กล่องอาหารสำเร็จรูป กล่องเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีการพิมพ์เป็นภาพสี เป็นต้น
4. KP : กระดาษคราฟท์สีน้ำตาลสำหรับทำผิวกล่อง มีโทนสีใกล้เคียงกับกระดาษต่างประเทศ เป็นที่ยอมรับกันในสากล เหมาะกับการใช้ผลิตกล่องสำหรับสินค้าส่งออกทุกชนิด
5. CA : กระดาษคราฟท์สำหรับทำลอนลูกฟูก มีคุณสมบัติความแข็งแรงในการป้องกันแรงกระแทก สำหรับทำลอนลูกฟูกขนาดต่างๆได้ทุกลอนให้ได้คุณภาพสูง ความแข็งแรงสัมพันธ์กับน้ำหนักมาตราฐานของกระดาษ นอกจากนี้ กระดาษ CA ยังนิยมนำมาใช้ทำเป็นกระดาษทำผิวกล่องด้านหลังเพื่อลดต้นทุนอีกด้วย

ขั้นตอนการผลิตกล่องกระดาษแบบคราฟท์สำหรับบรรจุขวดผลิตภัณฑ์

ในการผลิตกระดาษจะมีขั้นตอนการผลิตด้วยขั้นตอนที่สำคัญ 4 ขั้นตอน คือ…

• ขั้นตอนการผลิตเยื่อกระดาษ ในขณะที่เรามองหากระดาษแข็งรีไซเคิลสำหรับการผลิตกล่อง แต่โดยทั่วไปแล้ว ต้นไม้ที่ใช้ทำกล่องจะเป็นไม้เนื้ออ่อน เช่น ต้นสนและต้นเฟอร์ เหตุผลที่เลือกใช้คือมีเส้นใยยาวที่ช่วยสร้างพื้นผิวเรียบสำหรับกระดาษแข็งรวมทั้งสร้างแรงตึงที่เพิ่มความแข็งแรง
• ขั้นตอนการเตรียมน้ำเยื่อ จากการโค่นต้นไม้ทำให้เป็นเศษไม้ เศษไม้เหล่านี้จะแตกเป็นเยื่อกระดาษ ซึ่งสามารถทำได้ผ่านการบดไม้หรือการทำเศษไม้ด้วยสารเคมีเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของเนื้อกระดาษ
• ขั้นตอนการทำแผ่น เมื่อเยื่อกระดาษแห้งแล้ว ต่อมาเราก็สามารถเริ่มทำกระดาษแข็งได้ สำหรับกระดาษแข็งลูกฟูก ต้องใช้กระดาษหรือการ์ดสองแผ่นที่เรียกว่าไลเนอร์และกระดาษแข็งร่องส่วนหนึ่งซึ่งอยู่ระหว่างกระดาษซับ การร่องช่วยให้กระดาษแข็งมีความแข็งแรงมากขึ้นและป้องกันความเสียหายในระดับที่สูงขึ้น
• ขั้นตอนการพิมพ์

ซึ่งต้องบอกก่อนว่าขั้นตอนการผลิตดังกล่าวเป็นเพียงขั้นตอนเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งแต่ละโรงงานที่รับผลิตก็จะ

4 ตัวอย่างการพิมพ์ลายบนกล่องกระดาษใส่บรรจุภัณฑ์

1. การพิมพ์พื้นนูน

การพิมพ์ที่ใช้วิธีการให้ส่วนที่ต้องการให้เกิดภาพบนแม่พิมพ์มีพื้นผิวที่นูนกว่าส่วนอื่น

2. การพิมพ์พื้นลึก

การพิมพ์พื้นลึกเป็นการพิมพ์ที่จะต้องใช้แม่พิมพ์ที่มีร่องลึกสลักเป็นลวดลายที่ต้องการเพื่อที่จะเทสีลงไปบริเวณร่องและปาดสีในส่วนที่ไม่ต้องการออกเพื่อที่จะให้กระดาษและสีที่เทลงไปดูดซับกันอย่างสวยงาม

3. การพิมพ์พื้นฉลุ

การพิมพ์พื้นฉลุนั้นพิมพ์ที่จำเป็นที่จะต้องใช้แม่พิมพ์ที่มีลักษณะเป็นฉาก แผ่นบาง ๆ มากั้นสีไว้ ซึ่งแผ่นสกรีนนั้นจะต้องมีลักษณะทึบพอที่น้ำหมึกจะไม่สามารถทะลุผ่านไปได้ และทำการฉลุลวดลายตามที่ต้องการ เพื่อจะได้พิมพ์สีผ่านฉากด้วยระบบซิลค์สกรีน (Silk Screen) ลงบนกระดาษลูกฟูกเพื่อให้เกิดลวดลายสวยงาม

4.การพิมพ์ดิจิทัล

การพิมพ์ที่ใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องในการพิมพ์ โดยใช้ระบบพิมพ์ ด้วยสี ทำให้วิธีการพิมพ์แบบดิจิทัล มีสีสันที่หลากหลายกว่าวิธีพิมพ์แบบอื่น ๆ เนื่องจากการพิมพ์ซ้อนทับกันของสีต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดสีอีกเป็นจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม เจ้าของธุรกิจหรือเจ้าของแบรนด์เครื่องสำอางจึงไม่ควรมองข้ามเรื่องการออกแบบกล่องใส่เครื่องสำอาง เพราะแพ็คเกจจิ้งที่ดูสวยงามและดึงดูดนั้นมีผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อของลูกค้าได้จริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับแบรนด์เครื่องสำอางใหม่ๆ ที่เพิ่งก้าวเท้าเข้าสู่วงการนี้ การออกแบบกล่องใส่เครื่องสำอางที่ดูสวยงามและดูดึงดูดจะเป็นการเพิ่มโอกาสทางการขายได้มากยิ่งขึ้น